ส่อทุจริต! สตง. สั่งสอบโครงการปรับปรุงห้องเรียนรับ AEC

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สำนักข่าวอิศรา

          สตง. ส่งหนังสือถึง สพฐ. ตรวจสอบโครงการปรับปรุงห้องเรียนรับประชาคมอาเซียน เผยมีแววส่อทุจริต พบหักค่าหัวคิวร้อยละ 45 ของงบประมาณ รวมถึงงบประมาณการจัดซื้อครุภัณฑ์ที่สูงเกินจริงและซับซ้อน

          เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน สำนักข่าวอิสรา รายงานว่า ก่อนนี้เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือด่วนมาก แจ้งไปยังเลขาธิการคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), กระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบข้อมูลการจัดซื้อในโครงการปรับปรุงห้องเรียน ASEAN School Online เพื่อให้โรงเรียนก้าวสู่มาตรฐานสากล พัฒนานักเรียนสู่ประชาคมอาเซียนใน พ.ศ. 2558 (WORLD-CLASS STANDARD SCHOOL & ASEAN CENTER SCHOOL 2015) และโครงการห้องเรียน E-Classroom และอื่น ๆ ที่มีราคาห้องเรียนแตกต่างกัน หลายราคา นอกจากนี้ยังให้ตรวจสอบรายการครุภัณฑ์การเรียนรู้ของระดับชั้นอนุบาลถึงระดับประถมศึกษาชุดละ 6 หมื่นบาท และระดับมัธยมศึกษาชุดละ 7 หมื่นบาทอีกด้วย

          ส่วนสาเหตุที่ สตง. ให้ตรวจสอบ เพราะได้รับข้อมูลมาว่า การจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่กล่าวมา มักจะมีการหักค่าใช้จ่ายประมาณร้อยละ 30 ของวงเงิน และจ่ายให้ผู้ประสานงานอีกร้อยละ 5-15 ซึ่งในบางครั้งก็มีการกำหนดตัวผู้ประกอบการ (ผู้ขาย) เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้ สตง. เห็นว่า เป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม เปิดโอกาสให้มีการทุจริตได้ และเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542

          นอกจากนี้ สตง. พบว่า ราคาครุภัณฑ์มีจำนวนสูงกว่าท้องตลาดมาก อีกทั้งยังมีการจัดซื้ออุปกรณ์ที่ซ้ำซ้อนกับสิ่งที่โรงเรียนมีอยู่แล้ว เช่น คอมพิวเตอร์ โต๊ะ เก้าอี้ ชุดเครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อราชการในลักษณะของความฟุ่มเฟือย

          ด้วยเหตุนี้ สตง. จึงระบุทางแก้ไขไว้ว่า วัสดุ ครุภัณฑ์ต่าง ๆ ควรให้หน่วยงานที่มีความต้องการ เป็นผู้ของบประมาณ ไม่ใช่ทางราชการเป็นผู้เสนอไปให้ นอกจากนี้ โปรแกรมสื่อการเรียนการสอนควรจัดหาเองต่างหาก จะทำให้ราคาไม่สูงเกินไป เมื่อเทียบกับโครงการ E-Learning เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 80 โรงเรียน ของมูลนิธิ 5 ธันวาคมมหาราช ที่มีราคาเพียงชุดละ 35,000 บาท พร้อมกับระบุแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง เพื่อลดการรั่วไหลของงบประมาณ ขอให้ทาง สพฐ. ดำเนินการดังนี้