วีรชัย พลาศรัย นำทีมทนายแถลงสรุปคดี ชี้ คำตัดสินศาลมี 4 แนวทาง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          วีรชัย พลาศรัย นำทีมทนายแถลงสรุปคดี ชี้คำตัดสินศาลมี 4 แนวทาง แต่ฟันธงไม่ได้ว่าอะไรดีสุดหรือแย่สุด ด้าน อลินา เผยรู้ตัวว่าต้องมารับหน้าที่ในศาลเมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว

          วันนี้ (22 เมษายน) หลังจากที่ทีมทนายสู้คดีเขาพระวิหารของไทย ได้แก่ นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าทีมทนาย, ศ.อแลง แปลเลต์, นางสาวอลินา มิรอง, ศ.โดนัลด์ เอ็มแมคเรย์ และ ศ.เจมส์ ครอว์ฟอร์ด เข้าพบ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อรายงานผลการสู้คดีเขาพระวิหารนั้น

          ต่อมาในเวลา 16.00 น. ทางทีมทนายสู้คดีเขาพระวิหาร ได้มีการแถลงข่าว ณ กระทรวงต่างประเทศ ซึ่งทาง นายวีรชัย ได้แถลงเปิดว่า สำหรับแนวทางการสู้คดีครั้งนี้ ตอนแรกทุกคนจะต้องเขียนถ้อยแถลงของตัวเองตามแนวทางของตัวเองก่อน และนำมาเวียนกันดู ก่อนที่จะร่วมแก้ด้วยกัน จากนั้นก็นำไปหารือกับฝ่ายอื่น ๆ เช่น กองทัพ เป็นต้นต่อไป จนได้ร่างถ้อยแถลงสุดท้าย ดังนั้น จึงถือได้ว่ายุทธศาสตร์การชี้แจงต่อศาลโลกครั้งนี้ไม่ใช่ผลงานของตนคนเดียว แต่เป็นผลงานของหลายหน่วยงานด้วยกันที่ร่วมช่วยกันร่าง สุดท้ายต้องขอขอบคุณประชาชน กองทัพ หน่วยงานความมั่นคง กระทรวงการต่างประเทศ กฤษฎีกา และอาสาสมัคร สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้

          จากนั้นก็มีการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ตั้งคำถามต่อทีมทนาย สามารถสรุปเป็นประเด็นสำคัญได้ ดังนี้...

          ผู้สื่อข่าวถามว่า ใน 4 แนวทางที่ดีที่สุด และแย่ที่สุด สำหรับคำตัดสินของศาลโลกคืออะไร ซึ่ง นายวีรชัย ระบุว่า คำตัดสินของศาลโลก มีโอกาสออกได้ 4 แนวทาง นั่นคือ ศาลโลกรับคำร้อง และตัดสินเรื่องเขตแดนว่าเป็นของฝ่ายใด หรือศาลโลกตัดสินไม่รับคำร้อง แต่เนื่องด้วยจรรยาบรรณและมารยาททางกฎหมาย ตนจะไม่ฟันธงว่าแนวทางใดเป็นแนวทางที่ดีที่สุด หรือเป็นแนวทางที่แย่ที่สุด

          ต่อมาผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องราวในช่วงที่ นายวีรชัย ถูกปลดออกจากคณะทำงาน ในยุค นายนพดล ปัทมะ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการที่ไทยจะแถลงร่วมในประเด็นที่กัมพูชาเตรียมขึ้นปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งเรื่องนี้ นายวีรชัย ก็ของดที่จะตอบคำถาม เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการเมือง จะขอกล่าวถึงในภายหลังหรือเวทีอื่น

          ผู้สื่อข่าวถาม นางสาวอลินา ว่า ทราบเมื่อใดว่าจะต้องเป็นคนร่วมแถลงต่อศาลโลกครั้งนี้ ซึ่ง นางสาวอลินา ตอบว่า ตนได้ร่วมงานกับทีมทนายของประเทศไทยมาแล้ว 3 ปี โดยดูแลในเรื่องของแผนที่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทางทีมทนายก็ได้มอบหมายให้ตนเป็นผู้แถลงต่อศาลโลกเกี่ยวกับเรื่องที่ดูแลอยู่ เนื่องจากไม่มีใครสนใจทำ อย่างไรก็ดี นายวีรชัย ได้กล่าวแทรกขึ้นมาว่า ความเป็นจริงคือทางทีมทนายเห็นว่า นางสาวอลินา มีความสามารถและเชี่ยวชาญตรงจุดนี้ จึงตัดสินใจมอบหมายหน้าที่นี้ให้ แม้ว่าเธอจะไม่เคยขึ้นศาลโลกเลยก็ตาม

          ด้าน ศ.อแลง เปิดเผยหลังจากถูกผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้ยากที่สุดหรือไม่นับตั้งแต่ทำมากว่า 35 คดี ว่า ไม่สามารถบอกได้ว่าคดีใดยากที่สุดหรือง่ายที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับตนในการรับคดีคือ มีความสนใจในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งคดีเขาพระวิหาร เป็นคดีที่สำคัญมากในแง่ประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ยุคอาณานิคม ที่ส่งผลกระทบถึงปัจจุบัน

          อย่างไรก็ตาม เมื่อเสร็จสิ้นการแถลงข่าว หน้าที่ของทีมทนายไทยยังไม่จบ เนื่องจากต้องส่งเอกสารเรื่องพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารต่อศาลโลก ในวันที่ 26 เมษายนนี้ ซึ่งทางนายวีรชัยก็เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า พร้อมแล้ว